วันที่ 17 พ.ค. เกิดเหตุสลดช่วงปิดเทอมอีกแล้ว และสิ่งที่คร่าชีวิตเด็กก็หนีไม่พ้นเรื่องจมน้ำ ครอบครัวโชคร้ายนี้อยู่ที่ บ้านหนองขอน ม.10 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้กับลำห้วยสามพันนาม นางสุนิสา ทองหอม อายุ 28ปี ทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ขณะที่พ่อ นายกิติพงษ์ ทวีสุข อายุ 34 ปี ทำงานเป็นคนสวน
ช่วงวันที่เกิดเหตุ ด.ช.ธันวา
ชื่อเล่น น้องสแน็ค ลูกชายวัย 4 ขวบได้เล่นอยู่ในไร่กล้วยที่พ่อทำงานกับสุนัขคู่ใจ 2 ตัว ชื่อท็อปฟี่ และเก้า พร้อมกำชับว่าให้เล่นใกล้ๆ บ้าน แต่พอช่วงบ่าย 2 พ่อกลับมาบ้านไม่เห็นน้องสแน็ค ออกเดินตามหาก็ไม่พบ จึงตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ช่วยค้นหา
เจ้าหน้าที่ที่ร่วมค้นหาได้เดินทางไปตรวจสอบที่ลำห้วยสามพันนาม ติดกับไร่กล้วยโดยเดินตามรอยเท้าสุนัขไปเรื่อยๆตามริมลำห้วย ประมาณ 100เมตร ปรากฎว่าจากน้ำตื้นๆ แค่ระดับหน้าแข้ง พื้นดินลำห้วยเปลี่ยนเป็นลึก ถึงระดับหน้าอก สูงประมาณ 1.30ม. และพบร่างน้องสเน็คจมน้ำคว่ำหน้าอยู่ที่ก้นลำห้วย ณ ที่นั่น เบื้องต้นคาดว่า น้องสเน็ค น่าจะลงไปเล่นน้ำกับสุนัขในลำห้วยและเกิดพลัดตกในจุดน้ำลึกในช่วงที่ไม่มีใครเห็น จนเสียชีวิต
องค์การเภสัชกรรม (อภ.) แถลงวันนี้ (16 พ.ค.) ว่ากัญชาเกรดมาตรฐานการแพทย์ออกดอกแล้ว หลังมีการปลูก 140 ต้นด้วยมาตรฐานการแพทย์ที่นานาชาติให้การยอมรับ ภายใต้โครงการผลิตสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม โดยดอกกัญชาล็อตนี้คาดว่าจะสามารถสกัดน้ำมันหยดใต้ลิ้นได้ 2,500 ขวด
นพ.โสภณ เมฆธน ประธานอภ. เผยว่าอีกประมาณ 10-12 สัปดาห์ ดอกกัญชาจะเจริญเติบโตเต็มที่ คือมีลักษณะเป็นถุงใสคล้ายเรซิ่นทั้งด้านในและด้านนอกดอก อย่างไรก็ตามทีมงานจะต้องติดตามการเติบโตอย่างใกล้ชิดเพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ปลูกกัญชาเกรดการแพทย์ซึ่งมีรายละเอียดในการดูแลสูง
ด้านนพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ระบุว่ากัญชาที่ออกดอกนี้คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ภายใน 8-10 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะนำดอกกัญชาเหล่านี้ที่เพิ่งออกดอกไปสกัดแห้งด้วยเครื่องที่นำเข้ามาเพื่อการสกัดน้ำมันกัญชาโดยเฉพาะ คาดว่าจะสามารถผลิตน้ำมันหยดใต้ลิ้นปริมาณ 5 ซีซี ได้ประมาณ 2,500 ขวด โดยจะนำไปทดลองใช้กับกลุ่มผู้ป่วยที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจ่ายน้ำมันสกัดผ่านกรมการแพทย์และทีมวิจัยทดสอบ และจะไม่มีการจ่ายให้ผู้ป่วยโดยตรง
ทั้งนี้ น้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้นนี้จะถูกผลิตโดยมีการควบคุมความเข้มข้นของสารสกัด THC และ CBD เพื่อให้แพทย์สามารถคำนวณโดสที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมกับโรค อาการ และยาที่ใช้ควบคู่กัน
เด้งผอ.ให้นักเรียนกินขนมจีนคลุกน้ำปลาเป็นอาหารกลางวัน
นายชุมพล ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ศธจ.สุราษฎร์ธานี) เผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี (กศจ.) มีมติมติในวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาให้ใล่นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ออกจากตำแหน่ง หลังพบว่าทางโรงเรียนให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนคลุกน้ำปลาเป็นอาหารกลางวัน
กรณีอาหารกลางวันดังกล่าวเป็นที่มาของการสั่งสอบทุจริตนายสมเชาว์ในหลายเรื่อง และต่อมาสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้ชี้มูลความผิดไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยคำสั่งที่มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค.นี้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2561 ซึ่งคือวันที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการ
“สำหรับความผิดของ นายสมเชาว์ มีหลายประเด็น เช่น เรื่องการทุจริตอาหารกลางวัน การจัดซื้อจัดจ้างระบบไฟฟ้า การอนุญาตให้ขายน้ำอัดลมในโรงเรียน การจัดซื้อจัดจ้างก่อสร้างถนนคอนกรีตหน้าโรงเรียน เป็นต้น” ศธจ.สุราษฎร์ธานี กล่าว
หลังจากนี้ทางจังหวัดจะรายงานผลการดำเนินการทางวินัยไปยังคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้พิจารณาอีกครั้ง และอาจจะมีการลดหรือเพิ่มโทษ โดยอดีตผอ.สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันหลังจากทราบคำสั่ง นอกจากนี้ กรณีดังกล่าวยังเป็นที่มาของการตรวจสอบทุจริตโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนอื่นๆ อีกหลายโรงเรียนด้วย
เช้าวันนี้ (7 ส.ค.) นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร ได้ออกมาชี้แจงกรณีมีข่าวสะพัด เผยแพร่ในโลกออนไลน์ว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีสินสอดแต่งงาน โดยระบุว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
เนื้อหาที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้น มีเนื้อหาว่า รัฐบาลชุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ศึกษามาเป็นเวลากว่า 4 ปีและ ในวันที่ 6 ส.ค. 2562 ได้แถลงการณ์ข้อบังคับการเรียกเก็บภาษีของสินสอดแต่งงานต่อสาธารณชน พร้อมทั้งแจ้งไปยังอธิบดีกรมสรรพากรให้มีผลบังคับใช้ทันที ในวันที่ 1 ก.ย. 2562
ซึ่งทางโฆษกกรมสรรพากร ยืนยันว่าเรื่องนี้ ไม่เป็นจริง และรัฐบาลไม่ได้มีการออกกฎหมายใหม่ให้กรมสรรพากรเก็บภาษีจากสินสอดแต่งงานอย่างที่เป็นข่าวลือ โดยทางกรมสรรพากรได้ขอความร่วมมือไม่ให้หลงเชื่อข่าวปลอม และตรวจสอบความจริงให้แน่ชัดก่อนแชร์ข่าวใดๆ ออกไปทางโซเชียลมีเดีย
จากการเสียชีวิตของ ฮานะ คิมูระ ทำให้ทางการญี่ปุ่นหันมาคุมเข้มการไซเบอร์บูลลี่บนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่ง นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ได้ออกมาร่วมแสดงความเสียใจพร้อมระบุว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่ทางการต้องเพิ่มความรู้ในการใช้อินเทอร์เน็ตแก่ประชาชนญี่ปุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรังแกผู้ใช้คนอื่นด้วยถ้อยคำที่รุนแรง
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป